น้องกัปตัน จักรินทร์ สุนทองห้าว

น้องกัปตัน จักรินทร์  สุนทองห้าว น้องกัปตัน จักรินทร์ สุนทองห้าว เป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่นและกำลังใจที่แข็งแกร่งในการเผชิญหน้ากับความท้าทายตั้งแต่เกิด เขาลืมตาดูโลกพร้อมภาวะปากแหว่งเพดานโหว่สองข้างชนิดสมบูรณ์ ซึ่งสร้างความตกใจและโศกเศร้าให้ครอบครัว แต่ด้วยการรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์และความดูแลอย่างใกล้ชิดจากคุณยาย ทำให้น้องกัปตันก้าวข้ามความยากลำบากในวัยเด็กได้ กระบวนการรักษาเริ่มตั้งแต่การผ่าตัดริมฝีปากและเพดานโหว่ ต่อด้วยการฝึกพูด ตรวจการได้ยินและการจัดฟัน ซึ่งช่วยปรับปรุงการพูดและเสริมสร้างความมั่นใจให้กับน้อง ปัจจุบัน น้องกัปตันอายุ 17 ปี กำลังศึกษาในระดับมัธยมปลาย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ โดยมีเป้าหมายที่จะศึกษาต่อด้านช่างไฟฟ้าเพื่อเดินตามรอยคุณพ่อ นอกจากความสามารถด้านการเรียน น้องกัปตันยังมีพรสวรรค์ในกีฬาเซปักตะกร้อ ได้รับรางวัลจากการแข่งขันหลายครั้ง และมีส่วนร่วมในกิจกรรมวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ที่โรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อน ๆ และคุณครูต่างชื่นชมในความพยายามและมิตรภาพที่น้องกัปตันแบ่งปัน ครอบครัวของน้องกัปตันขอแสดงความขอบคุณต่อทีมสหสาขาของศูนย์ตะวันฉาย มูลนิธิตะวันฉาย ที่ได้มอบการดูแลและสนับสนุนอย่างเต็มที่จนทำให้น้องเติบโตอย่างมั่นใจ พร้อมที่จะสร้างอนาคตตามความฝันของตัวเองได้อย่างเข้มแข็งและมีความสุข   Jakrarin Sunthonghow Nong Captain entered the world with bilateral complete cleft lip with alveolar cleft with cleft palate, presenting…

น้องเทพพิทักษ์ กันนลาศ

เทพพิทักษ์ กันนลาศ เด็กชายวัย 14 ปีจากจังหวัดเลย ผู้เกิดมาพร้อมภาวะปากแหว่งเพดานโหว่สองข้างชนิดสมบูรณ์ เรื่องราวของเขาเป็นบทเรียนแห่งความมุ่งมั่น ความเสียสละ และความเข้มแข็งที่เหนือคำบรรยาย จุดเริ่มต้นของการรักษา น้องเทพพิทักษ์เกิดที่จังหวัดภูเก็ต และได้รับการผ่าตัดเย็บริมฝีปากครั้งแรกเมื่ออายุได้ 3 เดือนที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หลังจากครอบครัวย้ายมาอยู่จังหวัดเลย เขายังคงได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องในโรงพยาบาลใกล้บ้าน ต่อมาเมื่อได้รับคำแนะนำ ครอบครัวจึงพาน้องมารักษาที่ศูนย์ตะวันฉาย โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ซึ่งมีทีมสหสาขาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ให้การดูแลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่นั้นมา น้องเทพพิทักษ์ได้รับการผ่าตัดเพิ่มเติม ควบคู่ไปกับการฝึกพูด การตรวจการได้ยินและจัดฟัน ความท้าทายและการก้าวข้ามอุปสรรค การเดินทางจากจังหวัดเลยมาที่ขอนแก่นกินเวลาถึง 4-5 ชั่วโมง ซึ่งส่งผลต่อการมาตามนัดหมายในบางครั้ง อย่างไรก็ตาม ครอบครัวได้พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้น้องได้รับการรักษา และในช่วงต้นปี 2563 น้องเทพพิทักษ์ได้กลับมารับการรักษาต่อ โดยเริ่มการจัดฟันและฝึกพูดเพิ่มเติม การเกิดมาพร้อมกับภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ทำให้น้องต้องเผชิญกับคำพูดลบ ๆ และการสบประมาทจากผู้คนรอบข้าง แต่แทนที่จะปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นทำให้ตนเองท้อแท้ น้องเทพพิทักษ์ได้เรียนรู้ที่จะมองข้ามคำพูดเหล่านั้น และใช้ประสบการณ์นี้เสริมสร้างความมั่นใจและคุณค่าในตัวเอง การเสียสละเพื่อครอบครัว ในวัย 14 ปี น้องเทพพิทักษ์ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางครอบครัวและให้โอกาสน้องสาวได้เรียนหนังสือ คุณพ่อของน้องภูมิใจในตัวลูกชายเป็นอย่างมาก โดยกล่าวว่าน้องเป็นเด็กที่มีทัศนคติที่ดี และยังมีความหวังที่จะกลับไปศึกษาต่อในสิ่งที่เขารักในอนาคต การสนับสนุนจากศูนย์ตะวันฉายและมูลนิธิตะวันฉาย ศูนย์ตะวันฉายและมูลนิธิตะวันฉายได้มีบทบาทสำคัญในชีวิตของน้องเทพพิทักษ์ โดยมอบการดูแลที่ครอบคลุม รวมถึงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรักษาและการเดินทาง ซึ่งช่วยให้น้องสามารถมารับการรักษาได้อย่างสม่ำเสมอ คุณพ่อของน้องได้แสดงความขอบคุณต่อทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ช่วยให้ลูกชายมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น…

น้องแพร โสภิตา ปาปะเก

น้องแพร โสภิตา เกิดมาพร้อมกับภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ด้านซ้ายชนิดไม่สมบูรณ์ ที่โรงพยาบาลมหาสารคาม ในครอบครัวมีพี่ชายและพี่สาวโดยน้องแพรเป็นลูกคนเล็กที่สุดในบ้าน คนในครอบครัวไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าน้องจะเกิดมาพร้อมกับภาวะนี้  ตอนแรกแม่ของน้องเศร้าและเสียใจมากที่น้องแพรมีภาวะนี้ แต่ด้วยความรักและความอบอุ่นในครอบครัวที่มีให้กันเสมอ ช่วยให้ครอบครัวของน้องแพรสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคนั้นไปได้ด้วยดี คุณหมอที่โรงพยาบาลมหาสารคามแนะนำว่าให้ส่งตัวน้องไปที่ศูนย์ตะวันฉาย โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ซึ่งจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยดูแลรักษาผู้ป่วยภาวะปากแหว่งเพดานโหว่โดยเฉพาะ คุณแม่เล่าว่าพยาบาลประจำศูนย์ได้เป็นผู้บอกแนวทางในการดูแลน้องแพรและนัดหมายการผ่าตัดที่จำเป็นให้ น้องแพรได้เข้ารับการผ่าตัดเย็บเพดานและริมฝีปาก หลังจากนั้นก็ได้รับการฝึกพูดจนสามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว โดยน้องจะได้รับการจัดฟันในลำดับต่อไปเพื่อให้สุขภาพช่องปากและรูปหน้าของน้องได้เจริญเติบโตอย่างสมวัย เมื่อน้องแพรได้เข้าสู่โรงเรียนประถม น้องก็ได้เจอกับบททดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจ น้องนั้นได้ถูกล้อเลียนจากเพื่อน ๆ เพราะสิ่งที่น้องเป็น แต่เมื่อเวลาผ่านไปน้องก็เริ่มเข้าใจว่าภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ที่ตนเองเป็นนั้น เป็นแค่ส่วนหนึ่งในชีวิตเท่านั้น และไม่ได้เป็นสิ่งที่จะมาจำกัดความสามารถของน้องได้ เรื่องราวของน้องแพรนั้นเป็นบททดสอบที่แสดงให้เห็นถึงความรัก ความเอาใจใส่ ความพยายาม และยังสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ รอบตัวว่าความสวยงามของมนุษย์นั้นเกิดขึ้นมาจากข้างในตัวเรา คุณแม่ของน้องเล่าว่าน้องเป็นคนที่เข้มแข็ง แม้ว่าจะผ่านการผ่าตัดมาหลายครั้ง หรือต้องเจอกับความเครียดในการรักษามากแค่ไหน น้องยังคงเป็นเด็กสาวเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ตอนนี้น้องแพรกำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดฟัน ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการรักษา และตอนนี้น้องเป็นนักศึกษาคณะสาธารณะสุข ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม น้องแพรทำตามความฝันด้วยความชอบและความมุ่งมั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าภาวะที่น้องเป็นนั้นไม่สามารถขัดขวางศักยภาพของน้องได้ ศูนย์ตะวันฉายและสไมล์เทรนเป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนน้องมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลอย่างครอบคลุมจนถึงการให้คำแนะนำเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ และการอุทิศตนของเจ้าหน้าที่ทุกคนมีส่วนสำคัญมากในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของน้องให้มีความมั่นใจ ทำให้น้องเป็นหญิงสาวที่จิตใจงดงามพร้อมเผชิญหน้ากับโลกใบใหญ่   Sopita Papake Nong Pare, Sopita Papake, was born with left…

ขอเชิญร่วมบริจาคของเล่นเพื่อน้องตะวันฉายในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ 2568

มูลนิธิตะวันฉายเพื่อผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และพิการทางศีรษะและใบหน้า ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมบริจาคของเล่นเด็กสภาพใหม่เพื่อเป็นของขวัญให้น้องๆ ตะวันฉาย ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 10 มกราคม 2568 โดยจะเริ่มรับบริจาคตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 มกราคม 2568 นอกจากนี้มูลนิธิยังรับบริจาคสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ตลอดทั้งปี เช่น สบู่เหลวเด็ก แป้งเด็ก ยาสีฟันเด็ก แปรงสีฟันเด็ก ผ้าอ้อมขนาด M, L หมายเหตุ งดรับบริจาคเสื้อผ้า ท่านสามารถร่วมแบ่งปันรอยยิ้มและส่งมอบความสุขให้แก่เด็กๆ ที่มูลนิธิตะวันฉาย ได้ที่ มูลนิธิตะวันฉายฯ 123 หมู่ 16 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40002 โทรศัพท์: 0 43 363 502, 08 1185 1151 หรือสามารถบริจาคเงินได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น เลขที่บัญชี: 551-412873-0 ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและส่งมอบความสุขให้กับน้องๆ ที่มูลนิธิตะวันฉายในโอกาสวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ขอขอบคุณที่มอบโอกาส วาดฝัน…