การส่งหลักฐานการโอนเงินและรายละเอียดเพื่อออกใบเสร็จลดหย่อนภาษี ปี 2567

เรียน ผู้บริจาคทุกท่าน หากท่านประสงค์จะรับใบเสร็จเพื่อลดหย่อนภาษี กรุณาส่งหลักฐานการโอนเงิน พร้อมแจ้งรายละเอียดสำหรับการออกใบเสร็จของปี 2567 ภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ก่อนเวลา 12.00 น. เพื่อให้ทางมูลนิธิสามารถดำเนินการออกใบเสร็จได้ทันเวลา ขอขอบพระคุณในความกรุณาและการสนับสนุนของท่านเสมอมา มูลนิธิตะวันฉายฯ

กิจกรรมส่งเสริมทักษะและพัฒนาการน้องตะวันฉาย ประจำเดือนธันวาคม 2567

เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2567 น้องตะวันฉายเข้าร่วมกิจกรรมประดิษฐ์ไม้ไอศกรีมและระบายสี ณ คลินิกทันตกรรมจัดฟัน โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี ศ.นพ.บวรศิลป์ เชาวน์ชื่น ประธานกรรมการมูลนิธิตะวันฉายฯ, นางสุธีรา ประดับวงษ์ ที่ปรึกษาศูนย์ตะวันฉายและกรรมการมูลนิธิตะวันฉายฯ, นายพิสิษฐ์กรณ์ บุญเกษมสิน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4, นางสาวจารุพร บุญเกษมสิน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายมัธยมศึกษา ศึกษาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ตะวันฉายร่วมทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะและพัฒนาการ นอกจากนี้ ศ.นพ.บวรศิลป์ เชาวน์ชื่น ประธานกรรมการมูลนิธิตะวันฉายฯ ได้บริจาคเงินแก่มูลนิธิตะวันฉายฯ เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือและดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่และความพิการแต่กำเนิดของศีรษะและใบหน้า ขอขอบคุณที่มอบโอกาส วาดฝัน สร้างสรรค์รอยยิ้ม

ขอเชิญร่วมบริจาคของเล่นเพื่อน้องตะวันฉายในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ 2568

มูลนิธิตะวันฉายเพื่อผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และพิการทางศีรษะและใบหน้า ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมบริจาคของเล่นเด็กสภาพใหม่เพื่อเป็นของขวัญให้น้องๆ ตะวันฉาย ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 10 มกราคม 2568 โดยจะเริ่มรับบริจาคตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 มกราคม 2568 นอกจากนี้มูลนิธิยังรับบริจาคสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ตลอดทั้งปี เช่น สบู่เหลวเด็ก แป้งเด็ก ยาสีฟันเด็ก แปรงสีฟันเด็ก ผ้าอ้อมขนาด M, L หมายเหตุ งดรับบริจาคเสื้อผ้า ท่านสามารถร่วมแบ่งปันรอยยิ้มและส่งมอบความสุขให้แก่เด็กๆ ที่มูลนิธิตะวันฉาย ได้ที่ มูลนิธิตะวันฉายฯ 123 หมู่ 16 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40002 โทรศัพท์: 0 43 363 502, 08 1185 1151 หรือสามารถบริจาคเงินได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น เลขที่บัญชี: 551-412873-0 ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและส่งมอบความสุขให้กับน้องๆ ที่มูลนิธิตะวันฉายในโอกาสวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ขอขอบคุณที่มอบโอกาส วาดฝัน…

ผศ.ดร.สุกุลพัฒน์ คุ้มไพศาล บริจาคเงินแก่มูลนิธิตะวันฉายฯ

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 ผศ.ดร.สุกุลพัฒน์ คุ้มไพศาล อาจารย์ประจำสาขานวัตกรรมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมภรรยา บริจาคเงินที่ได้จากการระดมทุน จำนวน 34,500 บาท แก่มูลนิธิตะวันฉายฯ เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือและดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่และความพิการแต่กำเนิดของศีรษะและใบหน้า ขอขอบคุณที่มอบโอกาส วาดฝัน สร้างสรรค์รอยยิ้ม

มูลนิธิตะวันฉายฯ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านครอบครัวผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อประเมินการดูแลรักษา คุณภาพชีวิต และมอบทุนการศึกษา

เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2567 มูลนิธิตะวันฉาย เพื่อผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และพิการทางศีรษะและใบหน้า และศูนย์ตะวันฉาย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านครอบครัวผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ ณ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เพื่อประเมิน ติดตาม ผลลัพธ์การดูแลรักษา คุณภาพชีวิต และมอบทุนการศึกษา นำทีมโดย รศ.นพ.พลากร สุรกุลประภา ประธานกรรมการศูนย์การดูแลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่และความพิการแต่กำเนิดของศีรษะและใบหน้าและกรรมการมูลนิธิตะวันฉาย นางสุธีรา ประดับวงษ์ ที่ปรึกษาศูนย์ตะวันฉายและกรรมการมูลนิธิตะวันฉายฯ นางยุพิน ปักกะสังข์ พยาบาลประสานงานการดูแลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ฯและกรรมการมูลนิธิตะวันฉายฯ นายหัฎฐกร สำเร็จดี นักจิตวิทยาคลินิก นายวัชรพงษ์ เจริญสุข นักสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ นางสาวณัฐริกา กองทอง นักสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นางสาวพัชริดา ชูสุข และนางนงลักษณ์ แสนธารณะ เจ้าหน้าที่มูลนิธิตะวันฉายฯ โดยมี เจ้าหน้าที่ที่ว่าการอำเภอชุมแพ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลชุมแพ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอชุมแพ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลชุมแพ และผู้อำนวยการ คณะครู…

รศ.ดร.ทพญ.วรานุช ปิติพัฒน์ บริจาคเงินแก่มูลนิธิตะวันฉายฯ

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 รศ.ดร.ทพญ.วรานุช ปิติพัฒน์ แขนงวิชาทันตสาธารณสุข สาขาวิชาทันตกรรมป้องกัน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และที่ปรึกษามูลนิธิตะวันฉายฯ บริจาคเงิน จำนวน 20,000 บาท แก่มูลนิธิตะวันฉายฯ เพื่อช่วยเหลือและดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่และความพิการแต่กำเนิดของศีรษะและใบหน้า ขอขอบคุณที่มอบโอกาส วาดฝัน สร้างสรรค์รอยยิ้ม

น้องฟักข้าว ศิรดา เรณู

เด็กหญิงศิรดา เรณู ชื่อเล่นว่าน้องฟักข้าว เกิดมาพร้อมกับภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ด้านซ้ายชนิดสมบูรณ์ น้องฟักข้าวอาศัยอยู่กับคุณป้าที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ตอนเป็นเด็กเล็กน้องฟักข้าวอาศัยอยู่กับแม่ จนกระทั่งคุณแม่เดินทางไปทำงานต่างประเทศ คุณป้าซึ่งเกษียณอายุราชการครูจึงรับน้องฟักข้าวมาดูแล น้องฟักข้าวมีพี่สาวที่เกิดมาปกติแข็งแรงสมบูรณ์ แต่น้องฟักข้าวเกิดมาตัวเล็กและมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ คุณแม่และคุณป้าจึงกังวลว่าน้องฟักข้าวจะไม่แข็งแรงและเติบโตเหมือนเด็กคนอื่น ๆ แต่โชคดีที่คุณหมอแนะนำว่าให้พาน้องฟักข้าวมารักษาที่ศูนย์ตะวันฉาย โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะสามารถดูแล รักษา ผ่าตัด และฟื้นฟูสภาพ โดยทีมสหวิทยาการที่ร่วมดูแลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ฯ แบบครอบคลุมตามช่วงอายุอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีมูลนิธิตะวันฉาย เพื่อผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และพิการทางศีรษะและใบหน้า ให้การช่วยเหลือค่าเดินทาง ค่าอุปกรณ์การแพทย์ ค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสิทธิ์ที่ได้รับฯ น้องฟักข้าวได้รับการผ่าตัดปากแหว่งตอนอายุ 6 เดือน และได้รับการผ่าตัดปิดเพดานโหว่ตอนอายุ 10 เดือน หลังจากนั้นก็ได้รับการดูแลติดตามการรักษาจากทีมสหวิทยาการศูนย์ตะวันฉายตลอดมา จนน้องฟักข้าวมีรอยยิ้มที่สวยงามเปี่ยมไปด้วยความสุขของครอบครัว น้องฟักข้าวได้รับการฝึกพูดจากนักแก้ไขการพูด ทำให้เสียงพูดชัดขึ้น ปัจจุบันน้องฟักข้าวอายุ 9 ขวบ กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์ การเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นนักเรียนดีเด่น และได้รับทุนการศึกษามาตลอด คุณป้าเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ เพราะคุณป้าเป็นผู้ที่คอยอบรมสั่งสอนน้องฟักข้าว คุณแม่และคุณป้ารู้สึกภาคภูมิใจในตัวน้องฟักข้าวมาก คุณป้ายังได้เล่าว่า “น้องฟักข้าวมีความใฝ่ฝันอยากเป็นพยาบาลเหมือนพี่สาว” น้องฟักข้าวไม่เคยเสียใจเลยที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติ ไม่เคยถูกล้อเลียน สามารถพูดคุยและเล่นกับเพื่อน ๆ ได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้น้องฟักข้าวยังสามารถทำในสิ่งที่ตนเองชอบ…

น้องเฟิร์น พัสวี เชื้อคำเพ็ง

เด็กหญิงพัสวี เชื้อคำเพ็ง ชื่อเล่นว่า น้องเฟิร์น อายุ 15 ปี น้องเฟิร์นเป็นลูกคนเล็กในพี่น้องจำนวน 3 คน น้องเฟิร์นอาศัยอยู่กับแม่ในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองนครพนม น้องเฟิร์นคลอดที่โรงพยาบาลสกลนคร ซึ่งเกิดมาพร้อมกับภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ แรกคลอดคุณหมอได้บอกกับคุณแม่อย่างนุ่มนวลว่าน้องมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ คุณแม่ตกใจและกังวลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความกังวลว่าเธอจะดูแลลูกสาวที่เกิดมาพร้อมกับภาวะนี้ได้อย่างไร คุณหมอก็ได้อธิบายกับคุณแม่ว่าภาวะนี้สามารถรักษาให้ใกล้เคียงกับคนปกติได้ หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม และสามารถเติบโตแข็งแรง จนเป็นผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์ ใช้ชีวิตได้ปกติอย่างมีความสุข น้องเฟิร์นถูกส่งตัวมารับการดูแล รักษา ผ่าตัดที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โดยทีมสหวิทยาการศูนย์ตะวันฉาย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เป็นศูนย์เฉพาะทางภายใต้การดูแลแบบครอบคลุม ทั้งการดูแล รักษา ผ่าตัด และการฟื้นฟูสภาพตามช่วงอายุที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงเป็นที่พึ่งทางจิตใจ อีกทั้งยังได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิตะวันฉาย เพื่อผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และพิการทางศีรษะและใบหน้า ที่ให้ความช่วยเหลือค่าเหมารถเดินทางมาติดตามการรักษา ค่าอุปกรณ์การแพทย์ ค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสิทธิ์ที่ได้รับฯ แต่การดำเนินชีวิตของน้องเฟิร์นก็ไม่ได้ง่ายเลย ตลอดระยะที่น้องเฟิร์นเรียนอยู่ที่โรงเรียน เคยมีเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนเดียวกันกลั่นแกล้งและล้อเลียนรอยแผล ทำให้น้องเฟิร์นขาดความมั่นใจ แต่เมื่อได้รับการผ่าตัดแก้ไขจมูกเพิ่มเติม ทำให้มีความมั่นใจในรูปลักษณ์ เห็นคุณค่าในตนเอง กล้าแสดงออก และกล้าเข้าสังคมมากขึ้น ครอบครัวของน้องเฟิร์นต้องพบกับปัญหาและอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นความห่างไกลของระยะทางจากบ้านที่อยู่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม มายังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น…

สไปรท์ ณัฐวุฒิ ทัพหงษา

นายณัฐวุฒิ  ทัพหงษา หรือ “สไปรท์” ปัจจุบันอายุ 19 ปี เกิดมาพร้อมภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ด้านซ้ายชนิดสมบูรณ์ ที่โรงพยาบาลเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม แม้ครอบครัวจะดีใจกับการได้ต้อนรับลูกชายคนแรก แต่ก็มีความกังวลเพราะไม่รู้แนวทางการดูแลเด็กที่มีภาวะเช่นนี้ ซึ่งถือเป็นความโชคดีของคุณแม่ที่ได้พบกับครอบครัวที่มีผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่เช่นเดียวกันกับน้อง ได้แนะนำให้คุณแม่พาน้องไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น คุณแม่จึงติดต่อโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพื่อทำการนัดหมายในการพาน้องเข้ารับการรักษา สไปรท์ ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โดยทีมสหสาขาผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ได้ช่วยกันวางแผนการรักษาอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งให้คำแนะนำที่ช่วยให้ครอบครัวมั่นใจในการรักษายิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแนะนำให้รู้จักกับศูนย์ตะวันฉาย ซึ่งเป็นศูนย์เฉพาะทางในการดูแลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่อย่างครบวงจร ที่ช่วยประสานงานการดูแลและอำนวยความสะดวกทำให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น กระบวนการในการรักษาที่มีระยะเวลายาวนาน ทำให้สไปรท์ต้องปรับตัวเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับการเรียน น้องยังคงมุ่งมั่นและตั้งใจจนกระทั่งสำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาตรี จากวิทยาลัยเทคนิคนครขอนแก่น โดยปัจจุบัน สไปรท์ทำงานเป็นช่าง ที่บริษัทคอมพิวเตอร์ใกล้บ้าน ซึ่งเป็นงานที่น้องถนัดและชื่นชอบ สไปรท์ เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการจัดฟันเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผ่าตัดกระดูกขากรรไกร สไปรท์และครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งในความช่วยเหลือและการสนับสนุนทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษา ค่าเดินทาง และความช่วยเหลือด้านอื่นๆ ที่ได้รับจากทีมสหสาขาที่ร่วมดูแล ศูนย์ตะวันฉาย มูลนิธิตะวันฉายฯ และสไมล์เทรน ที่ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้กระบวนการรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ยังมอบโอกาสและความหวังในการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพอีกด้วย   Nattawut Thuphongsa  Nattawut Thuphongsa, Nong Sprite, is…

วินเนอร์ ณชวรรธน์ วรรณสุพริ้ง

นายณชวรรธน์ วรรณสุพริ้ง หรือ“วินเนอร์” ปัจจุบันอายุ 16 ปี เกิดมาพร้อมภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ด้านซ้ายชนิดสมบูรณ์ อาศัยอยู่กับคุณตาและคุณยายในจังหวัดขอนแก่นหลังจากพ่อแม่แยกทางกัน มีคุณตาเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัว และดูแลคุณยายที่ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ แม้วินเนอร์จะไม่ได้เติบโตมาในครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่วินเนอร์ไม่เคยเศร้าหรือรู้สึกด้อยค่าในตัวเอง เพราะความรักความอบอุ่นที่ได้รับจากคุณตาและคุณยายที่ดูแลด้วยความเอาใจใส่ มีครูและเพื่อน ๆ ที่ยอมรับและเข้าใจ ช่วยสร้างความมั่นใจให้วินเนอร์รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมโดยสมบูรณ์ วินเนอร์ เข้ารับการรักษาครั้งแรกที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ตอนอายุ 10 เดือน โดยการผ่าตัดเย็บริมฝีปากจากศัลยแพทย์ตกแต่ง และเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องกับทีมสหสาขาผู้เชี่ยวชาญ โดยมีพยาบาลประจำศูนย์ตะวันฉายคอยติดตามผลการรักษา เมื่อน้องอายุครบ 11 ปี ได้เริ่มเข้ารับการฝึกพูดกับนักแก้ไขการพูด ทำให้น้องมีความมั่นใจในการสื่อสารมากขึ้น ปัจจุบันวินเนอร์มาติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยเข้ารับการฝึกพูดควบคู่ไปกับการจัดฟัน วินเนอร์ รักและหลงใหลในกีฬาฟุตบอล มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต โดยมี อุ้ม ธีราทร บุญมาทัน นักฟุตบอลอาชีพชาวไทย เป็นต้นแบบและเป็นแรงบันดาลใจในการเดินตามความฝัน ปัจจุบันวินเนอร์ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านกีฬา ด้วยความขยัน มุ่งมั่น และตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก ทำให้วินเนอร์ได้รับคัดเลือกเป็นนักฟุตบอลทีมโรงเรียน สามารถสร้างชื่อเสียงจากการคว้ารางวัลในการแข่งขันหลายรายการ คุณตากล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่พาวินเนอร์มาติดตามการรักษา ครอบครัวได้รับการช่วยเหลือด้านค่าเดินทางจากศูนย์ตะวันฉายทุกครั้ง ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิตะวันฉายฯ ทั้งทุนการศึกษา การเข้าร่วมค่ายตะวันฉาย…