รายงานผลการดำเนินงานปี 2557
ดาวน์โหลด | ดูรายละเอียด
มูลนิธิตะวันฉายฯ ได้รับรางวัลพระธาตุพนมทองคำ ประเภทนิติบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร คำประกาศเกียรติคุณ มูลนิธิตะวันฉายเพื่อผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่และพิการทางศีรษะและใบหน้า ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นมูลนิธิ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง คือ 1) ช่วยเหลือผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่ฯ ที่ยากไร้เพื่อเข้ารับการรักษา 2) สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมในการช่วยเหลือตนเองและครอบครัวผู้ป่วยและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพและพัฒนาศักยภาพ 3) สนับสนุนการค้นคว้าและการวิจัยเพื่อการป้องกันปากแหว่งเพดานโหว่ฯ และการพัฒนาคุณภาพการรักษาพยาบาล 4) สนับสนุนด้านการเรียนการสอน การวิจัย และพัฒนาการบริการวิชาการอันเป็นประโยชน์ของศูนย์การดูแลผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่และความพิการแต่กำเนิดของศีรษะและใบหน้า มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ 5) ดำเนินหรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ ด้านสาธารณประโยชน์ โดยดำเนินงานภายใต้รูปแบบ “การดูแลที่สมบูรณ์แบบ” (Comprehensive Care) ใช้กรอบขององค์การอนามัยโลก WHO 2010 ในการดูแลผู้ป่วยให้ครอบคลุมทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ สุขภาพ การศึกษา การดำรงชีวิต สังคม และการสร้างเสริมพลังอำนาจ โดยการทำงานร่วมกันของทีมสหวิทยาการจากหลายสาขาวิชาชีพของคณะแพทยศาสตร์และคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จนได้รับคำตรัสชมจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา…
‘ผมอยากทำงานมีเงินเยอะๆ เพื่อจะได้มีเงินเรียนต่อจนจบปริญญาตรี’ น้องอุ้ม ผู้ที่เกิดมากับกลุ่มอาการเทรชเชอร์ คอลลินส์ และใบหูเล็กแต่กำเนิด ที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ครั้งแรกที่คุณยายเห็นหน้าหลานรู้สึกตกใจ เสียใจอย่างมาก แต่ก็ยอมรับได้เพราะสงสารหลานและต้องดูแลให้เขาเติบโตเป็นคนที่สมบูรณ์เหมือนคนทั่วไป จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากโครงการ ๘๔ รอยยิ้ม ทำดีตามรอยพ่อฯ ได้รับการผ่าตัด และดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องตลอดมา น้องอุ้มหูไม่ค่อยได้ยินทั้งสองข้าง ต้องใส่เครื่องช่วยฟัง น้องอุ้มเป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริง แจ่มใส ชอบวาดภาพและเล่นดนตรี ปัจจุบันน้องอุ้ม กำลังศึกษาที่โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดขอนแก่น เกรดเฉลี่ยสามกว่าของเด็กพิเศษ จากความไม่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและการได้ยิน แต่ไม่ได้ทำให้ล้มเลิกความใฝ่ฝันที่อยากเรียนหนังสือ น้องอุ้มเป็นเด็กจิตอาสา ชอบช่วยเหลือเพื่อน ชอบเล่นดนตรี ชอบการเล่นกีฬาฟุตซอล เป็นที่รักของอาจารย์ในโรงเรียนและเป็นเด็กมัธยัสถ์ เพื่อจะได้มีเงินสำรองสำหรับการเรียนของตนจนกว่าจะจบในระดับปริญญาตรี สุดท้ายขอขอบคุณ มูลนิธิตะวันฉายฯ ที่ให้ความช่วยเหลือดูแลในทุกด้านด้วยดีตลอดมา
เด็กหนุ่มจิตอาสา ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดตกแต่งและฟื้นฟูสภาพ พร้อมการก้าวเข้าวัยอุดมศึกษา ‘จากที่ได้รับการผ่าตัด ทำให้ผมไม่รู้สึกว่า ตัวเองมีความบกพร่องอะไร สามารถทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นได้ เรียนได้เหมือนเด็กทั่วไป’ ตะวัน เกิดมากับความผิดปกติทางร่างกาย คือ ปากแหว่งเพดานโหว่ ซึ่งความผิดปกตินี้ทำให้บิดามารดาของตะวัน เอาใจใส่ให้ความรัก เลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งถึงวัยเรียนระดับอุดมศึกษา ที่ต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไขความพิการที่เหลือ และได้รับการดูแลจากทีมแพทย์มูลนิธิตะวันฉายฯ ตามแนวทางการรักษา จากการรักษาทำให้ตะวันได้มองข้ามจุดบกพร่องที่เคยมี และได้เปลี่ยนเป็นความมั่นใจในตนเอง ตั้งใจเรียน และพยามแก้ไขข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคหรือคิดว่าเป็นปมด้อย คือ เรื่องการพูด เพราะเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ตะวันพยายามฝึกพูด ฝึกอ่าน ฝึกเขียน โดยมีบิดามารดาคอยช่วยเหลือและสนับสนุน ปัจจุบันตะวัน มีอาชีพ ข้าราชการครู วิชาเอกภาษาไทย ตำแหน่ง ครูผู้ช่วยโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๘๔ (บ้านสำราญเพี้ยฟาน) ตะวันขอฝากกำลังใจไปยังพี่น้องตะวันฉายทุกคนว่า “อย่าคิดว่าสิ่งที่เราเป็น คือ ปมด้อย ท้อได้แต่อย่าถอย ไม่มีสิ่งใดในโลกที่เราทำไม่ได้เฉกเช่นบุคคลอื่น ทุกคนมีความสามารถ ทุกคนมีความฝัน และมันต้องสำเร็จอย่างแน่นอน”และขอบคุณมูลนิธิตะวันฉายฯ ที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวตะวันเสมอมา
“ความรู้สึกที่ไม่เคยลืม เมื่อหมอได้ยกลูกให้ดูในวันคลอด ภาพนั้นยังคงติดในความทรงจำ มีแต่ความสงสารและเป็นห่วง รวมถึงกังวลว่าจะเลี้ยงดูอย่างไร” “สิ่งอยากแบ่งปัน… การดูแลลูกที่มีความเจ็บป่วยความผิดปกติ จำเป็นต้องใช้ความเข้าใจ และอดทนต่อการเข้ารับการรักษาที่มีระยะเวลายาวนาน ให้ความรักและเมตตา แล้วเขาจะเป็นต้นกล้าที่แข็งแรงเจริญเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ” ความในใจจากผู้เป็นแม่ การเผชิญกับปัญหาในการรักษาที่มีแต่ความกังวล ไม่ว่าจะในเรื่องแผลหลังการผ่าตัดจะติดดีหรือไม่ ลูกจะเจ็บหรือไม่ มีอาการอื่นแทรกซ้อนไหมซึ่งมันเป็นความเครียดที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่ลูกเข้ารับการผ่าตัด ความเหนื่อยและท้อแท้ที่เกิดขึ้นได้เบาบางลงหลังจากได้รับคำแนะนำจากแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ของศูนย์ตะวันฉาย และได้เข้าใจความรุนแรงตามอาการของโรค ขั้นตอนที่ต้องเข้ารับการรักษา ทำให้แม่ไม่โดดเดี่ยว เลิกอ้างว้าง ด้วยความเอื้ออาทรจากทีมงาน แม้จะต้องเดินทางเพื่อมารับการรักษาก็มีความยินดีเพราะเหมือนได้มาพบญาติ เมื่อมีปัญหาก็ได้รับคำตอบที่เต็มไปด้วยความเป็นมิตร ปัจจุบันในความรู้สึกของแม่และครอบครัว ลูกมีความปกติและสมบูรณ์เหมือนคนอื่นๆ กล้า เข้าสังคม และสิ่งที่แม่ภาคภูมิใจมากที่สุด คือ การที่ได้ก้าวข้ามอุปสรรคและสามารถชนะสิ่งที่อยู่ในใจที่คิดว่าตนเองขาด ไม่มีความสมบูรณ์เหมือนคนทั่วไป อีกทั้งยังได้เป็นครูซึ่งเป็นอาชีพที่มีความมั่นคง และได้ถ่ายทอดความรู้ที่ตนมีให้แก่เด็กทั่วไป
เมื่อแม่เห็นหน้าลูกครั้งแรก รู้สึกสะเทือนใจมาก และสิ่งที่ทำให้ผ่านพ้นมาได้ คือ จิตใจต้องเข้มแข็งและมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดูแลลูกชายให้ดีที่สุด ‘หลังจากได้ประเมินวัดเชาว์ปัญญา สิ่งที่ทำให้ครอบครัวเกิดความกังวล กลัวว่าลูกจะดูแลตนเองไม่ได้ และอยากให้เติบโตมีอาชีพไม่เป็นภาระของสังคม’ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาอย่างต่อเนื่องนั้น ครอบครัวของเราต้องต่อสู้กับอุปสรรคมากมาย และกลัวลูกชายจะไม่เหมือนคนปกติ แต่สิ่งที่ทำให้ผ่านพ้นมาได้ คือ การมีจิตใจที่เข้มแข็งและความมุมานะที่จะต่อสู้กับอุปสรรคทั้งด้านการเดินทาง ด้านการเงิน พาลูกชายมารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับคำแนะนำและการช่วยเหลือจากทีมแพทย์ พยาบาล ทีมศูนย์ตะวันฉาย เป็นอย่างดี ความสุขที่ได้จากการทุ่มเทและเอาใจใส่ ลูกชายได้แสดงให้ครอบครัวเห็นว่า เขาเป็นคนที่มีคุณค่าเทียบเท่าคนปกติ และสิ่งที่ครอบครัวภาคภูมิใจ คือ ลูกชายได้เข้าทำงานเป็นนักการภารโรงในโรงเรียนใกล้บ้าน สามารถเลี้ยงชีพด้วยตนเองอีกทั้งยังดำรงตนอย่างพอเพียง ทำให้ปัจจุบันครอบครัวของเราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสามารถปลดหนี้สินที่เคยกู้ยืมมาได้ ขอเป็นกำลังใจให้แก่ทุกท่านไม่ว่าจะครอบครัวผู้ป่วยหรือครอบครัวอื่นๆ ขอเพียงให้อดทนและให้มีจิตใจเข้มแข็งทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้
โครงการ“ตะวันฉาย” ความสุขที่เกินฝัน “TAWANCHAI Happiness beyond Dream” เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2562 ในโอกาสครบรอบ 10 ปี มูลนิธิตะวันฉายฯ และ30 ปี แห่งการอุทิศตนทำงานของทีมสหวิทยาการ โดยพิธีเปิด รศ.ดร.เบญจมาศ พระธานี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ฯ ประธานจัดงาน ได้กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน และ ศ.นพ.บวรศิลป์ เชาวน์ชื่น ผู้อำนวยการศูนย์ตะวันฉาย และประธานกรรมการมูลนิธิตะวันฉายฯ กล่าวรายงานความเป็นมาของโครงการนี้ และยังได้รับเกียรติจาก คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มาร่วมกล่าวเปิดงานในครั้งนี้ด้วย ภายในงานมีการจัดนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของมูลนิธิตะวันฉายฯ ผลงาน และรางวัลแห่งความภาคภูมิใจตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา และมีการแสดงความสามารถ “ฟ้อนเอิ้นขวัญ” และ “ฟ้อนเกี้ยวสาว” ของน้องตะวันฉายฯ ร่วมกับเพื่อน จากโรงเรียนหนองเรือวิทยาคม จังหวัดขอนแก่น และการบรรเลงดนตรีจาก “เพื่อนจิตอาสา บ้านชีวาศิลป์” นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาจากน้องตะวันฉายและครอบครัว ในหัวข้อ “ด้วยรักและห่วงใย… เพื่อพาน้องไปสู่ความฝันที่เป็นจริง” เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการเลี้ยงดูผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ฯ…