เด็กหญิงศิรดา เรณู ชื่อเล่นว่าน้องฟักข้าว เกิดมาพร้อมกับภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ด้านซ้ายชนิดสมบูรณ์ น้องฟักข้าวอาศัยอยู่กับคุณป้าที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ตอนเป็นเด็กเล็กน้องฟักข้าวอาศัยอยู่กับแม่ จนกระทั่งคุณแม่เดินทางไปทำงานต่างประเทศ คุณป้าซึ่งเกษียณอายุราชการครูจึงรับน้องฟักข้าวมาดูแล น้องฟักข้าวมีพี่สาวที่เกิดมาปกติแข็งแรงสมบูรณ์ แต่น้องฟักข้าวเกิดมาตัวเล็กและมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ คุณแม่และคุณป้าจึงกังวลว่าน้องฟักข้าวจะไม่แข็งแรงและเติบโตเหมือนเด็กคนอื่น ๆ แต่โชคดีที่คุณหมอแนะนำว่าให้พาน้องฟักข้าวมารักษาที่ศูนย์ตะวันฉาย โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะสามารถดูแล รักษา ผ่าตัด และฟื้นฟูสภาพ โดยทีมสหวิทยาการที่ร่วมดูแลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ฯ แบบครอบคลุมตามช่วงอายุอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีมูลนิธิตะวันฉาย เพื่อผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และพิการทางศีรษะและใบหน้า ให้การช่วยเหลือค่าเดินทาง ค่าอุปกรณ์การแพทย์ ค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสิทธิ์ที่ได้รับฯ
น้องฟักข้าวได้รับการผ่าตัดปากแหว่งตอนอายุ 6 เดือน และได้รับการผ่าตัดปิดเพดานโหว่ตอนอายุ 10 เดือน หลังจากนั้นก็ได้รับการดูแลติดตามการรักษาจากทีมสหวิทยาการศูนย์ตะวันฉายตลอดมา จนน้องฟักข้าวมีรอยยิ้มที่สวยงามเปี่ยมไปด้วยความสุขของครอบครัว น้องฟักข้าวได้รับการฝึกพูดจากนักแก้ไขการพูด ทำให้เสียงพูดชัดขึ้น ปัจจุบันน้องฟักข้าวอายุ 9 ขวบ กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์ การเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นนักเรียนดีเด่น และได้รับทุนการศึกษามาตลอด คุณป้าเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ เพราะคุณป้าเป็นผู้ที่คอยอบรมสั่งสอนน้องฟักข้าว คุณแม่และคุณป้ารู้สึกภาคภูมิใจในตัวน้องฟักข้าวมาก คุณป้ายังได้เล่าว่า “น้องฟักข้าวมีความใฝ่ฝันอยากเป็นพยาบาลเหมือนพี่สาว” น้องฟักข้าวไม่เคยเสียใจเลยที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติ ไม่เคยถูกล้อเลียน สามารถพูดคุยและเล่นกับเพื่อน ๆ ได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้น้องฟักข้าวยังสามารถทำในสิ่งที่ตนเองชอบ สามารถทำกิจกรรมที่โรงเรียนได้หลายอย่าง โดยไม่ได้มีความรู้สึกอายหรือกลัว จนกระทั่งได้มีโอกาสเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ซึ่งนั่นก็ทำให้น้องฟักข้าวมีความมั่นใจในรูปลักษณ์ กล้าแสดงออก เห็นคุณค่าในตนเอง
คุณป้าเล่าว่าเคยมีลูกศิษย์ที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่เหมือนกับน้องฟักข้าว แต่ไม่ได้รับการรักษา เพราะครอบครัวขาดทุนทรัพย์ในการพามาทำการรักษา ทำให้คุณป้ารู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก
คุณป้าได้เล่าอีกว่า “ครอบครัวเราโชคดีมากที่ได้รับการช่วยเหลือและได้รับคำแนะนำจากทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญ ของศูนย์ตะวันฉาย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ” อีกทั้งยังได้รับความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ จากมูลนิธิตะวันฉายฯ และองค์กรสไมล์เทรน ทำให้ชีวิตของน้องฟักข้าวเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก
Sirada Renu
A girl named Fukkaow born with left complete cleft lip and cleft palate, condition that made her appearance different from other child. She raised in Kalasin province and lived with her aunt. When she was a little kid, her mom is the person who took care of her for a while. After that, her aunt who retired from being a teacher served as parents because her mom required to go to aboard. Fukkaow has an elder sister and she was born healthy but Fukkaow was born cleft and tiny, leading her mom and aunt to worry whether she would grow up like other children. Luckily, the doctor suggested that she could take her daughter to Srinagarind Hospital, Faculty of Medicine, Khon Kaen University, that can help her child to get the appropriate treatment. Additionally, there is the Tawanchai Foundation for Cleft Lip, Cleft Palate and Craniofacial Deformities, which helps with travel costs and any excess medical expenses beyond the coverage provided.
Fukkaow underwent cheiloplasty surgery when she was 6 months. After that, she had been supported and treated by the multidisciplinary team of Tawanchai Center until she became a girl who has beautiful smile. Also, her communication was better when she had received speech treatment from speech specialist. At present, Fukkaow is nine years old and she is studying in the school located at Kalasin. She is good at studying and has become an excellent student until she is qualified to apply for the scholarship. Her aunt is the part of this success because she helps in teaching her. Her mom and aunt are so proud of her. “She wants to be a nurse like her sister, her aunt said.” Fukkaow never felt sorry for her appearance that was different from others. She said that she has no trouble with bullying, and she can talk with her friends happily. In addition, it doesn’t prevent her from doing what she loves. She is eager to do many activities in her school without fear or shyness. Fukkaow has a chance to be a cheerleader that makes her more confident with her appearance. Her aunt always supported all activities she did.
Her aunt indicated that it was really sad to hear from one of her students that he couldn’t be treated like her niece due to the lack of support from family.
Her aunt said “We’re so lucky to get help and good advice from the medical professional team without treatment expenses.” Fukkaow’s face now looks good, and she can speak clearly, the same as normal children.
With the support from Smile Train, Tawanchai Foundation, and the multidisciplinary team from Tawanchai Center, Fukkaow’s life has been changed forever.