เด็กหญิงพัสวี เชื้อคำเพ็ง ชื่อเล่นว่า น้องเฟิร์น อายุ 15 ปี น้องเฟิร์นเป็นลูกคนเล็กในพี่น้องจำนวน 3 คน น้องเฟิร์นอาศัยอยู่กับแม่ในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองนครพนม น้องเฟิร์นคลอดที่โรงพยาบาลสกลนคร ซึ่งเกิดมาพร้อมกับภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ แรกคลอดคุณหมอได้บอกกับคุณแม่อย่างนุ่มนวลว่าน้องมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ คุณแม่ตกใจและกังวลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความกังวลว่าเธอจะดูแลลูกสาวที่เกิดมาพร้อมกับภาวะนี้ได้อย่างไร
คุณหมอก็ได้อธิบายกับคุณแม่ว่าภาวะนี้สามารถรักษาให้ใกล้เคียงกับคนปกติได้ หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม และสามารถเติบโตแข็งแรง จนเป็นผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์ ใช้ชีวิตได้ปกติอย่างมีความสุข น้องเฟิร์นถูกส่งตัวมารับการดูแล รักษา ผ่าตัดที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โดยทีมสหวิทยาการศูนย์ตะวันฉาย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เป็นศูนย์เฉพาะทางภายใต้การดูแลแบบครอบคลุม ทั้งการดูแล รักษา ผ่าตัด และการฟื้นฟูสภาพตามช่วงอายุที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงเป็นที่พึ่งทางจิตใจ อีกทั้งยังได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิตะวันฉาย เพื่อผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และพิการทางศีรษะและใบหน้า ที่ให้ความช่วยเหลือค่าเหมารถเดินทางมาติดตามการรักษา ค่าอุปกรณ์การแพทย์ ค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสิทธิ์ที่ได้รับฯ แต่การดำเนินชีวิตของน้องเฟิร์นก็ไม่ได้ง่ายเลย
ตลอดระยะที่น้องเฟิร์นเรียนอยู่ที่โรงเรียน เคยมีเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนเดียวกันกลั่นแกล้งและล้อเลียนรอยแผล ทำให้น้องเฟิร์นขาดความมั่นใจ แต่เมื่อได้รับการผ่าตัดแก้ไขจมูกเพิ่มเติม ทำให้มีความมั่นใจในรูปลักษณ์ เห็นคุณค่าในตนเอง กล้าแสดงออก และกล้าเข้าสังคมมากขึ้น
ครอบครัวของน้องเฟิร์นต้องพบกับปัญหาและอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นความห่างไกลของระยะทางจากบ้านที่อยู่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม มายังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ที่ต้องนั่งรถประจำทางถึง 6 ชั่วโมง เพื่อเข้ารับการติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งต้องนอนค้างคืนเพื่อให้ทันเวลาหมอนัด อีกทั้งครอบครัวของน้องเฟิร์นยังมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเมื่อ 2 ปีที่แล้วคุณพ่อได้ล้มป่วยและเสียชีวิตลง ในขณะที่คุณพ่อป่วย น้องเฟิร์นได้ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเพื่อช่วยครอบครัวประหยัดค่าใช้จ่ายมารักษาคุณพ่อ
แต่น้องเฟิร์นก็ไม่ได้ละทิ้งความฝัน ได้ศึกษาหาความรู้และอ่านหนังสือด้วยตนเองเพื่อไม่ให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ปัจจุบันได้เรียนการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้น้องเฟิร์นมีโอกาสอีกครั้งที่จะมีอนาคตที่ดี น้องเฟิร์นอยากตอบแทนสังคมด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น และมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพราะจะได้ช่วยเหลือและให้ความอุ่นใจกับผู้อื่น อย่างที่ตนเองได้รับจากคุณหมอและคุณพยาบาลตลอดมา
คุณแม่ของน้องเฟิร์นรู้สึกซาบซึ้งใจกับความช่วยเหลือที่ได้ให้กับครอบครัว “ถ้าไม่มีความช่วยเหลือจากศูนย์ตะวันฉายและมูลนิธิตะวันฉายฯ คุณแม่คงไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลน้องเฟิร์นได้ ทางศูนย์ตะวันฉายไม่ได้ให้แต่รอยยิ้มใหม่แก่น้องแต่ได้ให้อนาคตใหม่กับน้องเฟิร์นด้วย”
Passawee Chueakhampheng
Nong Fern, or Passawee Cheukhampheng, is a 15-year-old girl and the youngest of three siblings. She lives with her mother in a quiet village far from the capital district of Nakhon Phanom. She was born with a cleft lip and palate at Sakhon Nakhon Hospital. When she was born, the doctors gently explained that her daughter had a cleft lip and palate. Her mother felt a wave of shock and worry, especially about how she would be able to feed her newborn.
The doctors reassured her that her baby could be treated and that, with proper care, she would grow to lead a healthy, happy life. Nong Fern was referred to Srinagarind Hospital, where she was then placed under the care of the multidisciplinary team at the Tawanchai Center, Faculty of Medicine, Khon Kaen University. The center provided comprehensive care, including surgeries, therapies, and emotional support. Additionally, Nong Fern received help from the Tawanchai Foundation for Cleft Lip, Cleft Palate and Craniofacial Deformities, which covered travel costs and excess medical expenses. However, her journey wasn’t always easy.
Throughout her school years, Nong Fern faced bullying from some of her peers. The scars of her early years and the teasing she endured left marks on her confidence. However, after undergoing a nose revision surgery, she began to feel more confident in her appearance, became more outgoing and willing to socialize.
Nong Fern’s family has faced many challenges along the way Living in Na Kha District, Nakhon Phanom Province, they face the challenge of traveling approximately six hours by bus to Srinagarind Hospital in Khon Kaen for ongoing medical follow-ups, and they often must stay overnight during hospital visits to ensure they arrive on time for their appointments. Additionally, the family has struggled with daily expenses, especially after her father passed away two years ago. During her father’s illness, Nong Fern made the difficult decision to drop out of school to help her family save money for his treatment. This meant she couldn’t enter school like her peers.
Nong Fern refused to give up on her dreams. She continued reading and studying on her own, determined not to let her time go to waste. Recently, she returned to her studies through non-formal education, which is free, giving her another chance to pursue her future. Nong Fern dreams of helping others, and her goal is to one day become a rescue worker, someone who can offer care and comfort to people in need, just like she received from the doctors and nurses who took care of her.
Her mother expresses deep gratitude for the support they have received from the Tawanchai Cleft Center. “Without their help,” she says, “we wouldn’t have been able to afford the treatment. They’ve given my daughter not just a beautiful smile but a new future.”